IV Drip VS การทานวิตามิน แตกต่างกันอย่างไร

868

หลายคนอาจกำลังสงสัยว่าระหว่างการทานวิตามินแบบปกติ และการทำหัตถการ “IV Drip” ให้ผลลัพธ์ที่เหมือนกัน หรือมีข้อแตกต่างในด้านอื่นๆ อย่างไรบ้าง วันนี้ รมย์รวินท์ คลินิก (Romrawin Clinic) จะมาไขข้อข้องใจเหล่านี้ให้ฟัง โดย แพทย์หญิงธิรดา จิตตการ (หมอแพร)

ในปัจจุบันมีการรับประทานวิตามินเพื่อดูแลสุขภาพกันอย่างแพร่หลายมากขึ้น แต่การรับประทานนั้น ร่างกายสามารถดูดซึมได้เพียงแค่ 20-25% ต้องใช้เวลากว่าจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน ซึ่งในทางการแพทย์ปัจจุบันจึงมีอีกหนึ่งวิธีการที่เราเรียกกันว่า “IV Drip” นั่นเองค่ะ

IV Drip คืออะไร ?
IV Drip หรือ Intravenous Drip เป็นการใส่สารอาหาร วิตามิน เกลือแร่ และสารต้านอนุมูลอิสระผ่านทางหลอดเลือดดำ ซึ่งประสิทธิภาพของการใส่สารอาหารผ่านทางหลอดเลือดดำนั้นแปลว่า เราจะได้รับสารอาหาร 100% โดยที่ไม่ผ่านการย่อยอาหาร คือจะแตกต่างจากการรับประทานอาหารด้วยการดื่มหรือรับประทานแบบเป็นเม็ดเข้าไป ซึ่ง IV Drip ก็จะมีสูตรที่หลากหลาย แก้ปัญหาได้หลายเรื่อง ตั้งแต่เรื่องผิว เรื่องการเผาผลาญ ไปจนถึงเรื่องสุขภาพภายใน

ประกอบไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน รวมถึงเกลือแร่ต่างๆ เพื่อช่วยฟื้นฟูเซลล์จากภายใน และยังช่วยลดอนุมูลอิสระที่ส่งผลกระทบต่อตัวเราทุกวัน เหมาะกับผู้ที่ใช้ชีวิตหนัก หน่วง ต้องการซ่อมแซมเซลล์ และต้องการมีผิวที่ดีกระจ่างใสขึ้น ร่วมไปกับการดีท็อกซ์ หรือว่าการกำจัดพิษ โดยสารอาหารเหล่านี้จะเข้าไปช่วยตับในการล้างพิษ ส่งผลให้สุขภาพดีขึ้น ทั้งผิวภายนอก และร่างกายภายใน

ประกอบไปด้วยสารอาหารกลุ่มกรดอะมิโน และวิตามินเกลือแร่ต่างๆ เพื่อช่วยในการซ่อมแซมและฟื้นฟูเซลล์ กระตุ้นภูมิต้านทานให้ร่างกายแข็งแรงมากขึ้น พร้อมที่จะเจอสิ่งแปลกปลอมหรือแม้แต่เชื้อโรคต่างๆ ให้ร่างกายสามารถต่อต้านได้ดีขึ้น กลุ่มนี้จะเหมาะกับผู้ที่มีภาวะภูมิแพ้เรื้อรัง มีความอ่อนล้า รวมถึงผู้ที่ต้องการเดินทางไปต่างประเทศ ต้องการป้องกันการติดเชื้อต่างๆ

ประกอบไปด้วยกรดอะมิโน และวิตามินเกลือแร่ต่างๆ ที่ช่วยในการเสริมประสิทธิภาพของการออกกำลังกาย ระบบเผาผลาญ รวมถึงการเผาผลาญน้ำตาลให้ดีขึ้นด้วย สามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี เหมาะกับผู้ที่ต้องการซ่อมแซมร่างกายในกลุ่มที่อยากสร้างร่างกายให้มีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญยังเหมาะกับกลุ่มคนที่ต้องการเผาผลาญพลังงานตัวเอง และอยากลดน้ำหนัก

ข้อควรระวัง
ในหญิงตั้งครรภ์ ให้นมบุตร รวมถึงผู้ที่แพ้ยาหรือแพ้สารอาหารบางอย่าง ประกอบกับมีโรคประจำตัว ควรแจ้งแพทย์ก่อนเข้าใช้บริการ และที่สำคัญอย่างไรก็ตามควรปรึกษาแพทย์ก่อน เพื่อให้คุณหมอช่วยพิจารณาว่าคนไข้เหมาะกับ IV Drip ชนิดไหน เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดและความปลอดภัยด้วยเช่นกันค่ะ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับเรื่องราวดี ๆ ที่นำมาฝาก ใครที่สนใจการทำ “IV Drip” วิตามิน สามารถปรึกษาแพทย์ผู้มีประสบการณ์ได้ที่ รมย์รวินท์ คลินิก มาที่นี้ จบ ครบ ในที่เดียวทุกปัญหา หรือ สอบถามโปรแกรมต่างๆ ได้ที่ www.romrawinclinic.com หรือ โทร. 080-1539000, 080-1549000 หรือ Line@ : @Romrawinclinic