ผู้ที่เข้าเส้นชัยเป็นที่หนึ่งทำการแข่งขันส่วนใหญ่ในรถยนต์ เขาตั้งใจจะลาออกและขึ้นรถกลับไปที่สนามกีฬาเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า และเพียงแค่เริ่มวิ่งจ็อกกิ้งเมื่อเขาได้ยินการประโคม
ผู้เข้าเส้นชัยอันดับสองถูกส่งข้ามเส้นชัยโดยผู้ฝึกสอนของเขากระตุกขาในทางเทคนิค พวกเขาปฏิเสธน้ำให้เขา และให้ส่วนผสมของบรั่นดีและพิษหนูสำหรับทั้งเผ่าพันธุ์ ยาสลบยังไม่ผิดกฎหมาย (และนี่เป็นความพยายามที่แย่มาก) ดังนั้นเขาจึงได้เหรียญทองเมื่อคนแรกถูกเปิดเผย
หมัดเด็ดที่สามไม่ธรรมดา แต่อย่างใด
หมัดเด็ดคนที่สี่คือบุรุษไปรษณีย์คิวบา ซึ่งระดมทุนเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกโดยวิ่งไม่หยุดทั่วประเทศ เขาลงจอดที่นิวออร์ลีนส์ และเสียเงินทั้งหมดไปกับการเดินทางไปกับคาสิโนบนเรือล่องแม่น้ำ เขาวิ่งแข่งในชุดเดรสและกางเกงขายาว (มีดบาดที่หัวเข่าของคู่แข่ง) เขาอาจจะเข้ามาก่อน (อย่างที่สอง หลังรถ) ถ้าไม่ได้งีบหลับสักชั่วโมงที่เขางีบข้างทางหลังจากกินแอปเปิ้ลเน่าๆ ที่เขาเจอข้างสนามแข่ง
ผู้เข้าเส้นชัยที่ 9 และ 12 มาจากแอฟริกาใต้ และวิ่งเท้าเปล่า แอฟริกาใต้ไม่ได้ส่งผู้แทนไปจริง ๆ พวกเขาเป็นนักเรียนที่เพิ่งอยู่ในเมืองและคิดว่ามันฟังดูน่าสนุก อันดับที่ 9 ถูกสุนัขโกรธไล่ออกนอกเส้นทางหนึ่งไมล์ หมายเหตุ: นี่เป็นชาวแอฟริกันกลุ่มแรกที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกสมัยใหม่
ผู้เข้าร่วมครึ่งหนึ่งไม่เคยแข่งกันมาก่อน บางคนเสียชีวิต
เซนต์หลุยส์มีจุดแวะพักน้ำเพียงแห่งเดียวตลอดการวิ่ง ประกอบกับถนนที่เต็มไปด้วยฝุ่นและรถที่ดูดฝุ่นเข้าไปรุนแรงขึ้น ทำให้มีผู้เสียชีวิตด้านบน ยังไงก็ตาม ไอ้หนูพิษรอดมาได้เพื่อเหรียญทอง
คณะผู้แทนรัสเซียมาถึงสายหนึ่งสัปดาห์ เพราะพวกเขายังคงใช้ปฏิทินจูเลียน ในปี พ.ศ. 2447
The Marathon at the 1904 Olympics in St. Louis.
The first place finisher did most of the race in a car. He had intended to drop out, and got a car back to the stadium to get his change of clothes, and just kind of started jogging when he heard the fanfare.
The second place finisher was carried across the finish line, legs technically twitching, by his trainers. They had been refusing him water, and giving him a mixture of Brandy and Rat Poison for the entire race. Doping wasn’t illegal yet (and this was a terrible attempt at it), so he got the gold when the First guy was revealed.
Third finisher was unremarkable, somehow.
Fourth finisher was a Cuban Mailman, who had raised the funds to attend the olympics by running non-stop around his entire country. He landed in New Orleans, and promptly lost all of the travelling money on a riverboat casino. He ran the race in dress shoes and long trousers (cut off at the knee by a fellow competitor with a knife). He probably would have come in first (well, second, behind the car) had it not been for the hour nap he took on the side of the track after eating rotten apples he found on the side of the race.
9th and 12th finishers were from South Africa, and ran barefoot. South Africa didn’t actually send a delegation – these were students who just happened to be in town and thought it sounded fun. 9th was chased a mile off course by angry dogs. Note: These are the first Africans to compete in any modern Olympic event.
Half the participants had never raced competatively before. Some died.
St. Louis only had one water stop on the entire run. This, coupled with the dusty road, and exacerbated by the cars kicking up dust, lead to the above fatalities. And yet, somehow, Rat Poison guy survived to get the Gold.
The Russian delegation arrived a week late, because they were still using the Julian calendar. In 1904.
