มารู้จักหลวงพ่อดำ พระพุทธรูปองค์สีดำแห่งดินแดนพุทธธรรมแห่งลุ่มแม่น้ำโขง จังหวัดหนองคายกันครับ
“หลวงพ่อดำ” เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดหน้าตัก 48 นิ้ว ประดิษฐานอยู่ภายในอุโบสถวัดพระธาตุราษฎร์บำรุง ต.หนองกอมเกาะ อ.เมือง จ.หนองคาย
หลวงพ่อดำ ได้จำลองแบบพุทธลักษณะมาจากหลวงพ่อดำที่ประเทศอินเดีย กล่าวคือ หลวงพ่อดำ สร้างเมื่อราว พ.ศ.1353-1393 โดยมีพระนาคารชุนและพระนาคะแห่งมหาวิทยาลัยนาลันทา ประเทศอินเดีย เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ส่วนประธานฝ่ายฆราวาสเป็นเจ้าเมืองนาลันทา ในสมัยพระเจ้าเทวปาละเป็นผู้สร้างจาศิลา เมื่อ พ.ศ.1545 ได้ถูกทำลายโดยนักบวชศาสนาอื่น มีการทำลายวัด วิหาร มหาวิทยาลัยนาลันทา ทำลายพระพุทธรูปและทำลายพระภิกษุในสมัยนั้น ส่วนหลวงพ่อดำนั้นรอดพ้นจากการถูกทำลาย
หลวงพ่อดำ เป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์ มีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่นับถือพระพุทธศาสนา เดินทางไปกราบไหว้ที่เมืองนาลันทาในประเทศอินเดียเป็นจำนวนมาก ปัจจุบันหลวงพ่อดำ ประดิษฐานอยู่ที่หมู่บ้านนาลันทา เมืองนาลันทา รัฐวิหาร ประเทศอินเดีย
ด้วยความศรัทธาในองค์หลวงพ่อดำ พระครูสุญาณโสภิต เจ้าอาวาสวัดพระธาตุราษฎร์บำรุง พร้อมด้วยคณะสงฆ์ ชาวคุ้มวัดพระธาตุราษฎร์บำรุง และพุทธศาสนิกชนชาวหนองคาย จึงได้ประกอบพิธีเททองหล่อหลวงพ่อดำ ขนาด 48 นิ้ว ในวันที่ 7-9 ตุลาคม 2546 และอัญเชิญประดิษฐานภายในอุโบสถวัดพระธาตุราษฎร์บำรุง
ระหว่างการเททองหล่อหลวงพ่อดำ ประมาณ 2 วัน มีหญิงสาวชาวหนองคายคนหนึ่งเดินทางไปทำงานที่ จ.ระยอง และต้องการเดินทางกลับมาทำบุญอุทิศส่วนกุศลครบรอบ 100 วัน ของแม่ที่เสียชีวิตไปแล้ว
หญิงสาวคนดังกล่าวฝันว่า หลวงพ่อดำ ลอยอยู่บนหน้าวัดพระธาตุราษฎร์บำรุง ขณะนั้นยังไม่ทราบชื่อว่าอะไร แต่พอเดินทางมาถึงบ้านโนนสังข์ ใกล้กับวัดพระธาตุราษฎร์บำรุง กำลังจะมีการประกอบพิธีเททองหล่อพระประธานหลวงพ่อดำ เป็นพระประธานประจำอุโบสถของวัด ซึ่งพระพุทธรูปที่วัดจะทำการเททองนั้น เหมือนกับในความฝัน จึงนำมาซึ่งความปิติยินดี
และเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2546 พราหมณ์ 3 คน ได้เข้ามาที่วัดเพื่อจัดตั้งเครื่องบวงสรวงประกอบพิธีอัญเชิญทวยเทพได้กล่าว กับเจ้าอาวาสวัดพระธาตุราษฎร์บำรุงว่า หลวงพ่อดำ เป็นพระที่ศักดิ์สิทธิ์มาก เคยถูกพวกนับถือศาสนาอื่นทำลาย แต่ด้วยบุญญาธิการและความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อดำ องค์ท่านไม่เป็นอะไรเลย
ทั้งนี้ การหล่อหลวงพ่อดำนั้น จะต้องทำพิธีให้ถูกต้อง เครื่องบวงสรวงจะต้องทำให้สมบูรณ์ทุกอย่าง จะต้องเชิญโองการเจ้ากรุงกาสี เพื่อขอบารมีแห่งทวยเทพทั้งหลายช่วยให้หลวงพ่อดำสำเร็จ ไม่มีอุปสรรค ยิ่งได้กำหนดเอาวันพฤหัสบดี เป็นวันประกอบพิธีเททองหล่อ ถือว่าเป็นวันครูและวันแข็ง ทำพิธีไม่ถูกต้องเบ้าหล่อหลวงพ่อดำจะแตก และวันเททองจะต้องอัญเชิญหลวงพ่ออุปคุตเข้าร่วมในพิธีเพื่อป้องกันพวกมารมา ขัดขวางด้วย
ต่อมา วันที่ 9 ตุลาคม 2546 ได้ประกอบพิธีบวงสรวงโดยคณะพราหมณ์ ระหว่างการอ่านโองการเชิญองค์เทพอยู่นั้น ได้มีก้อนเมฆขนาดใหญ่อยู่เหนือบริเวณประกอบพิธีทำให้บริเวณประกอบพิธีร่ม เย็น แต่บริเวณรอบนอกแดดจ้า ร้อนจัด ไม่มีร่มเงาของเมฆบดบังแสงอาทิตย์ ทั้งที่อยู่บริเวณเดียวกัน สร้างความประหลาดใจให้กับคนที่อยู่ในบริเวณพิธีโดยรอบ
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากคณะพราหมณ์ ได้ประกอบพิธีอย่างถูกต้องตรงตามประเพณี ทำให้พิธีหล่อหลวงพ่อดำ ดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย เป็นที่ศรัทธาแก่ผู้มาร่วมพิธีในวันนั้นเป็นอย่างยิ่ง
ส่วนปาฏิหาริย์อีกราย เกิดขึ้นกับสามเณรของวัดรูปหนึ่ง ได้พูดเล่นกับเพื่อนๆ ว่า จะควักเอาตาหลวงพ่อดำไปขาย ปรากฏว่าวันต่อมาสามเณรรูปนั้นมีขี้กลากขึ้นรอบปาก เจ้าอาวาสต้องพาสามเณร ไปขอขมาหลวงพ่อดำภายในอุโบสถ
ศรัทธาของพุทธศาสนิกชนที่มีต่อหลวงพ่อดำนั้น ผู้ที่มากราบไหว้สักการะมักจะขอพรจากหลวงพ่อดำ ให้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน กิจการค้าขายเจริญรุ่งเรือง สุขภาพอนามัยสมบูรณ์ ส่วนจะบนบานสานกล่าวหรือไม่นั้นแล้วแต่ศรัทธาของแต่ละคน
วัดพระธาตุราษฎร์บำรุง จัดงานนมัสการหลวงพ่อดำ ในวันที่ 31 ธันวาคมของทุกปี ภายในงานมีการบวชชีพราหมณ์ พิธีเสริมบารมี การเจริญพระพุทธมนต์ เจริญสมาธิภาวนา การฟังธรรมเทศนา และตอนกลางคืนมีมหรสพสมโภชตลอดคืน
คำนมัสการหลวงพ่อดำ
“นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (นะโม 3 จบ) กาฬะพุทธัสสะ อานุภาเวนะ โสตถิเม โหตุ สัพพะทา “