วัดอยู่ที่ดวงใจคน หลวงปู่ฝั้น อาจาโร

1230

ศาสนาคืออะไร ศาสนาคือคำสั่งสอน ท่านสอนอะไร ก็สอนกายสอนวาจาสอนใจของคน ท่านไม่ได้สอนอื่น สอนเพื่ออะไร กายวาจาใจของคน ท่านให้ละความชั่วทางกายทางวาจาทางใจ ความชั่วไม่ได้อยู่ที่อื่น อยู่ที่กายที่วาจาที่ใจของคน ท่านสอนให้ละความชั่วเพราะกลัวเราทุกข์กลัวเรายาก กลัวเราลำบากรำคาญ กลัวเราอดเราจน ตกทุกข์ได้ยาก ท่านสอนอย่างนี้ก็ดูเอาซี เชื่อหรือไม่เชื่อ ว่าทุกข์ยาก อะไรทุกข์ล่ะ หรือข้าวของเงินทองทุกข์ยาก หรือฟ้าอากาศทุกข์ยาก การงานทุกข์ยาก ไม่มี มีแต่หัวใจคนมันทุกข์ยาก หัวใจคนวุ่นวายเดือดร้อน นี่แหละให้ดูเอา นี่แหละบาป นี่แหละนรก เมื่อจิตใจเป็นอย่างนี้แล้ว เวลาเราดับขันธ์ จิตนั้นก็นำเราไปทุคติ เวลานี้มันก็ทุกข์อยู่แล้ว

บางคนมาคำนึงดู อดีตมันเป็นมายังไง ปัจจุบันเป็นยังไง อนาคตข้างหน้าจะเป็นยังไง ดูซิอนาคตข้างหน้าท่านไม่ให้คำนึงคิดถึง อดีตล่วงมาแล้วท่านไม่ให้คำนึงคิดถึง ปัจจุปันนัญจะโยธัมมัง ตัตถะ ตัตถะ วิปัสสติ ท่านให้ดูในปัจจุบันนิ่งอยู่นี้ เวลานี้จิตของเราเป็นยังไง จิตเรามันสุข หรือมันทุกข์มันยากวุ่นวายเดือดร้อน ถ้าจิตเป็นอย่างนี้แล้ว อนาคตก็ร้อนอย่างนี้ อนาคตก็ทุกข์อย่างนี้ พิจารณาดูซิ ถ้าจิตเราสงบ จิตเราดี มีความสุขความสบาย เย็นอกเย็นใจ ไม่ทุกข์ไม่ร้อนไม่วุ่นวาย พุทโธ ใจเราเบิกบาน พุทโธ ใจเราสว่างไสว พุทโธ ใจเราผ่องใส สะอาดปราศจากทุกข์ ปราศจากโทษ ปราศจากภัย ปราศจากเวร ปราศจากความชั่วช้าลามก ปราศจากความทุกข์ความจน เมื่อจิตเราเป็นอย่างนั้น นี่แหละนำความสุขความเจริญให้ในปัจจุบันและเบื้องหน้า

จึงว่าให้นั่งดู ให้ฟังธรรม ฟังดูซิ ธรรมมันเกิดที่ไหนเล่า ความสุขทุกข์ อะไรเป็นสุข อะไรเป็นทุกข์ ให้ฟังดู เราอยากดี อะไรมันดี ความดีคืออย่างอธิบายให้ฟัง ความดีมันยังงี้ คือใจเราดีใจเราสงบ ไม่ทะเยอทะยานดิ้นรน ไม่กระวนกระวายเดือดร้อน ไม่ฟุ้งซ่านรำคาญ ไม่หงุดหงิด ไม่ง่อนแง่นคลอนแคลน ใจเราดีสงบนิ่ง มันว่างหมด อารมณ์ทั้งหลายว่างหมดไม่มีอะไร ใจสงบมีความสุขความสบาย อันนี้แหละนำความสุขความเจริญมาให้ในปัจจุบันและเบื้องหน้า ดูเอาซี

เราทั้งหลายมานี้ก็ต้องการความสุขความสบาย มาวัด ไม่ใช่ศาลาเป็นวัด ไม่ใช่กุฏิโบสถ์วิหารเป็นวัด วัดอยู่ที่ดวงใจคน ศาลาก็คนทำ โบสถ์ก็คนทำ คนทำทั้งหมด เมื่อใจคนดี สิ่งเหล่านั้นมันก็ดี เมื่อใจคนไม่ดี สิ่งเหล่านั้นมันก็ไม่ดี