ผู้อื่นก็เกลียดทุกข์กลัวตายเหมือนเรา โดย หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ

1019
หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ

“ให้ทาน” อย่างนี้นะก็เพื่อบรรเทา “ความโลภ””ความตระหนี่หวงแหน” ให้เบาบางออกไปจากจิตใจ”รักษาศีล” เช่นนี้ก็เพื่อบรรเทา”ความโกรธ ความพยาบาท”ให้เบาบางออกไป เพราะว่า “ผู้ที่มั่นอยู่ในศีล” แล้วไม่พอใจให้คนให้สัตว์ก็จะโกรธขึ้นมาอย่างรุนแรงอย่างนี่มันก็ถึงจะต้องไปประหัตประหารผู้อื่นและสัตว์อื่นไปจะทำให้ศีลข้อที่ ๑ ขาดลงเมื่อเป็นผู้มั่นอยู่ในศีลแล้วไม่ยอมล่วงแล้วมันโกรธขึ้นมาให้คนให้สัตว์ก็ยับยั้งได้อ้าว ไม่ได้นะ ศีลจะขาด ขืนโกรธรุนแรงไปนี่รู้ตัวอย่างนี้แล้วมันก็ข่มจิตใจ มันก็ข่มความโกรธนั้นไว้ได้ความโกรธนั้นก็ไม่ลุกลามใหญ่โตขึ้นไปเพราะมันมี “สติ” เป็นเครื่องยับยั้ง

อีกอย่างหนึ่งเราก็ “เจริญเมตตา” อยู่เสมอเสมอไอ้เราเกลียดต่อความทุกข์หรือเรากลัวต่อความตายฉันใดบุคคลอื่นและสัตว์อื่นเขาก็เกลียดต่อความทุกข์แล้วก็กลัวต่อความตายเหมือนกับเรานี่เองเมื่อยกเอาเขามาเทียบกับเรา เอาเราไปเทียบกับเขาแล้วบุคคลผู้นั้นจึงไม่กล้าเบียดเบียนใครบาดนี่นะ

ไอ้ที่มันเบียดเบียนกันได้อยู่นั่นมันก็เนื่องมาแต่มันไม่ได้นึกเทียบตัวเรากับเขาเทียบเขามาใส่ตัวเราลองดู มองไม่เห็นนึกแต่ว่าจะกินเนื้อของมันลูกเดียวไม่นึกถึงชีวิตของสัตว์ทั้งหลายว่า มันก็หวงแหนมันก็หวงแหน “รูป” อันนี้ของมันเหมือนกันสัตว์ทั้งหลายก็ดีมนุษย์ก็หวงแหนรูปกายอันนี้เช่นเดียวกันไม่แตกต่างกันเลยเราไม่ต้องการให้ใครมาทำลายร่างกายฉันใดสัตว์อื่นทั้งหลายมันก็ไม่ต้องการให้ใครไปทำลายรูปร่างของมันเช่นเดียวกันก็เมื่อมาพิจารณาเทียบเคียงกันเข้าไปอย่างนี้แล้วผู้ใดพิจารณาอย่างนี้บ่อยๆ เข้ามันก็ไม่กล้าที่จะไปทำลายสัตว์เลย เออ มันเป็นอย่างนั้น

แม้ไปเบียดเบียนเอาสมบัติข้าวของเงินทองผู้อื่นก็เหมือนกันถ้าเขามาเอาของของเรา เราก็เสียดายเราก็เป็นทุกข์ถ้าเราไปเอาของเขา เขาก็เสียใจเป็นทุกข์มาคิดอย่างนี้แล้วก็งดเว้นเลย ไม่เอาของใครหาไม่ได้ก็ไม่ต้องบริโภคใช้สอยกันแหละหาได้เท่าไรจึงบริโภคใช้สอยเท่านั้น

เมียใครผัวใครก็ย่อมรักใคร่ จงรักภักดีต่อกันบาดนี้มีคนไปละลาบละล้วงเข้าไปให้ประพฤตินอกใจซึ่งกันและกันเข้าไปอย่างนี้มันก็ทำให้เป็นทุกข์เดือดร้อนทั้งสองฝ่ายนั่นแหละมันเป็นอย่างนั้นถ้าสมมติเขามาหลอกลวงเอาเมียเราไป
ในทางประเวณีอย่างนี้นะ เรารู้เข้าเราก็เสียใจเป็นทุกข์เดือดร้อน เรียกว่ามันมีเรื่องเทียบกันได้อยู่แต่มนุษย์เรามันไม่คิด มันเมาหลายกิเลสมันครอบงำจิตใจมาก เป็นอย่างนั้น

การพูดโกหกหลอกลวงเอาสมบัติผู้อื่นมาเป็นของตนมันก็เหมือนกันนะ ถ้าเขามาโกหกเราหลอกลวงเอาสมบัติของเราไป เรารู้เข้าก็เสียใจเราไปหลอกลวงเอาของเขาได้มาเขารู้เข้าเขาก็เสียใจเป็นทุกข์เหมือนกัน

ส่วนหนึ่งจากพระธรรมเทศนาหัวข้อ
“คุณธรรมบรรเทากิเลส”